วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คนใจดี สมองพัฒนามากกว่า


*-*.... คนใจดี สมองพัฒนามากกว่า.... *-*




นอกจากเป็นที่รักของคนทั่วไปแล้ว ข้อดีของการเป็นคนใจดียังมีมากกว่า
นั้นค่ะ ดอกเตอร์เกรแฮม เมอร์เรย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศ
อังกฤษ ทำการ วิจัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสมองในอาสาสมัครชาย
จำนวน 41 คน ด้วยการ ให้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อคนอื่น
การแสดงอารมณ์และความชอบใน การทำให้คนอื่นมีความสุข และนำผล
สแกนสมองมาวิจัยควบคู่ พบว่าคนที่มีความเป็นมิตร และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
มีเนื้อเยื่อสมองมากกว่าคนทั่วไปหลายส่วน อาทิ ส่วนที่ใช้ในการประมวล
ข้อมูล การตัดสินใจ การวางแผน และการบริหารงาน ดอกเตอร์เกรแฮม กล่าว
"ข้อสรุปที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ทำให้สรุปได้ว่า มุมมองในการดำเนินชีวิต
และบุคลิกมี ความสัมพันธ์กับ สมองบางส่วนโดยตรง และทำให้เข้าใจถึงเหตุผล
ใน การแสดงพฤติกรรมบางอย่าง ของมนุษย์แต่ละคน"
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า วัฒนธรรมก็มีส่วนใ นการพัฒนาเนื้อเยื่อสมอง
ด้วยเช่นกัน เพราะจากการวิจัย พบว่า คนที่อยู่ในสภาพสังคมที่ดี เนื้อเยื่อสมองก็จะ
พัฒนา มากกว่า อยากมีแต่ คนรักและสมองดี รีบมาเป็นคนใจดีกันเถอะค่ะ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

10 ข้อควรปฏิบัติในการถนอมสายตาหน้าจอคอมฯ

>0< ดวงตากับการใช้คอมพิวเตอร์ >0<



อย่างที่เรารู้กันนะคะว่า "ดวงตา" เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวในการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งเดี๋ยวนี้ในยุคที่ทุกอย่างออนไลน์อยู่ในอินเตอร์เน็ต เราก็ยิ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์กันมากขึ้น แน่นอนล่ะครับอวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น "ดวงตา" ...
เมื่อเราต้องใช้คอมพิวเตอร์อยู่ทุกวัน เพื่อเป็นการถนอมสายตาของเรา ก็มี 10ข้อปฏิบัติในการถนอมสายตาหน้าจอคอมพิวเตอร์ มาฝากกันค่ะ

1. ควรเลือกจอคอมพิวเตอร์ที่มีการกระจายรังสีต่ำเพื่อถนอมสายตา เราสามารถทดสอบง่าย ๆ ได้โดยลองปิดสวิตซ์จอภาพ แล้วเอามือหรือแขนไปจ่อไว้ใกล้ ๆ จอาภาพ จอที่มีการกระจายรังสีต่ำจะแทบไม่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตตามขนที่ผิว คือไม่รู้สึกขนลุก
2. ปรับแสงและความคมชัดของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตา รวมไปถึงปรับความสว่างในที่ทำงาน ลดแสงสะท้อนรบกวน เพราะดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อดวงตาได้ง่ายและรวดเร็ว จะรู้สึกว่ามีอาการปวดร้าวดวงตาเร็วและแสบตารุนแรงมากขึ้น
3. ตำแหน่งของจอภาพควรห่างจากดวงตาประมาณ 18 – 24 นิ้ว (วัดง่าย ๆ ประมาณหนึ่งช่วงแขนและปรับให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15 – 20 องศาค่ะ) ถ้าระยะห่าวของจอภาพกับดวงตาไม่สัมพันธ์กันจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดตาได้ง่าย
4. ใช้แผ่นกรองรังสีติดไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อาจจะช่วยได้ไม่มาก(ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า) แต่ก็น่าจะช่วยลดแสงจ้าจากจอคอมพิวเตอร์ลงได้
5. ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ ที่ต้องทำก็เพราะฝุ่นจะทำให้เกิดการสะท้อนของแสงมากขึ้น
6. หยุดพักหรือเปลี่ยนตารางเวลาทำงานใหม่ เพื่อให้สายตาได้พัก 15 นาที ทุก ๆ 2 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย

7. ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ วางไว้บนเปลือกตา และหลับตาพักซัก 2 – 3 นาที หรืออาจจะปิดไฟนอนพักซักครู่ (วิธีนี้พี่เหมี่ยวว่าใช้ที่บ้านน่าจะเหมาะที่สุดนะคะ)
8. ผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์อาจจะเกิดอาการตาแห้งเพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง การหยอดน้ำตาเทียมจะช่วยได้
9. ควรกระพริบตาให้บ่อยครั้งกว่าปกติ ภายใน 10 วินาที พยายามกระพริบตาซัก 1 – 2 ครั้ง จะช่วยคลายความอ่อนล้าของสายตาได้
10. ตรวจสุขภาพตาบ่อย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์ และผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ควรไปตรวจเช็คสุขภาพดวงตาด้วยนะคะ



ขอบคุณข้อความดีๆ จาก http://blog.eduzones.com/rangsit/9355

ขอร้อง....รักเธอนะ *-*

รักนะ

Create miiselfVisit this user
Create miiselfVisit this user